เรื่องย่อหนัง
สองพันปีก่อน กองพลทหารลึกลับ ที่มีนัยน์ตาโตและจมูกโด่ง ร่อนเร่ไปตามเส้นทางสายไหม แต่งตัวด้วยเกราะและมีพู่แดงบนหมวก ทหารโรมันทัพนี้นำโดย แม่ทัพลูเชียส (จอห์น คูแซ็ค) เขาพาคนของเขาไปยังตะวันออกเพื่อปกป้องพูบลิอุส บุตรชายคนเล็กสุดของกงสุลแครสซัส จากพี่ชายที่ชั่วร้ายของเขาอย่าง ทีเบเรียส (เอเดรียน โบรดี้) ทีเบเรียสได้สังหารพ่อของเขาและทำให้พูบลิอุสตาบอด ลูเชียสหนีมาพร้อมกับพูบลิอุสและมุ่งหน้าไปทางตะวันออก กองทัพนี้มี

อาวุธและกลยุทธในการรบที่คนบนแผ่นดินจีนไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากหลงทางในทะเลทราย พวกเขาก็มาถึงยังประตูห่านป่า ที่ที่ลูเชียสต้องต่อสู้กับฮัวอัน ผู้บัญชาการของกองกำลังคุ้มกันเส้นทางสายไหมทางด้านตะวันตก ชายสองคน ซึ่งต่างคนต่างเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ต่างเคารพซึ่งกันและกันในเวลาต่อมา ฮัวอันได้ให้ทหารโรมันที่เหนื่อยอ่อนหลบภัยจากพายุทราย เพื่อเป็นการตอบแทนแก่กองทัพของลูเชียส เขาได้ช่วยคนของฮัวอันในการซ่อมประตูห่านป่า เมื่อทีเบเรียสยกทัพใหญ่มาถึง เขาได้ยื่นคำขาดให้ฮัวอันส่งตัวลูเชียสและพูบลิอุสมา ไม่เช่นนั้น ทัพของเขาจะเข้าบุกยึดจีน เพื่อเป็นการปกป้องประเทศชาติและกอบกู้ชื่อเสียงจากที่เคยถูกกล่าวหาว่ากบฏ ฮัวอันรวบรวมนักรบ 36 ชนชาติ ให้รวมตัวกันสู้กับทีเบเรียสในศึกครั้งมหากาพย์!

ตัวอย่างหนังออนไลน์

รีวิวหนัง

Dragon Blade (Daniel Lee / China / 2015)

ช่วงเริ่มไตเติ้ลเปิดเรื่องก่อนเข้าเส้นเรื่องหลักมันก็น่าดูดีนะแปลกตาเราดีสำหรับหนังจีน ที่เปิดมาเป็นคณะสำรวจโบราณสถานแล้วก็โยงเข้าเรื่องในอดีต ถึงตรรกะเล็กๆ น้อยๆ มันจะปวกเปียกอยู่บ้างก็เถอะ แต่พอเริ่มฉากแรกในเส้นเรื่องหลักมันกลับออกอาการแป้กๆ เป๋ๆ มากๆ ลำพังเฮียเฉินหลงเองก็เอาไม่อยู่ เพราะทั้งกำกับตัดต่อและฉากแอคชั่นที่ดูเหมือนยังไม่เข้าร่องเข้ารอย ดูเรื่อยๆ โดดๆ ดาษๆ กระท่อนกระแท่น เป็นฉากเปิดตัวละครที่ดูปกติธรรมดาไปหน่อย

Siwon SJ โผล่มาฉากสองฉากในองก์แรกก็ไม่ช่วยอะไร จนกระทั่ง John Cusack ปรากฏตัวก็เริ่มมีอะไรให้ดูขึ้นมาหน่อยถึงมันจะดูตลกๆ และเรื่องราวมันง่ายเกินไป โดยเฉพาะตัวละครที่มันคนดีก็โคตรจะดี ร้ายก็โคตรร้าย ก็เลยทำให้หนังมีเส้นอารมณ์ทื่อๆ ตลอด ถ้าฉากไหนไม่จับตัวละครคนละฝั่งมาปะกัน ไม่ใช่ตัวละครทรยศที่มาเกลาแค่เปลือกๆ แต่เป็นบาดแผลในวัยเด็กที่เคยพลาดทำให้น้องสาวตัวเองตายขณะหลบหนีสงครามซึ่งซัพพอร์ตให้ตัวละครคนโคตรดีของเฉินหลงอยู่ได้และไม่เห่ยจนเกินไป

ตอนท้ายฉากแอคชั่นก็เริ่มสนุกตามแบบฉบับการกำกับคิวแอคชั่นของเฉินหลง ดูแบบเพลินๆ ดี จนกระทั่ง Adrien Brody เข้ามาที่พาให้หนังมีพลังมากขึ้นไปด้วย และฉากดวลดาบระหว่างตัวละครของ เฉินหลง กับ Adrien Brody ก็ชวนลุ้นสนุกดี ถึงมันจะเป็นฉากที่มีตามขนบหนังแบบนี้ที่เดาตอนจบได้ไม่ยาก และเสียดายที่ทั้งนางเอกนางรองของเฉินหลงหนังมันไม่ส่งให้เกิดเลย

แล้วตอนจบกลับมาทำทีอนุรักษ์ให้นักสำรวจหนุ่มสาวไม่เปิดเผยให้ทีมสำรวจที่แยกกันไปสำรวจต่างที่ให้รู้ว่าสถานที่นี้มีอยู่จริงมันก็ออกแนวสะดิ้งไปเลยน่ะ